สธ.เผยในปี 2573
จำนวนผู้สูงอายุไทยจะมากกว่าเด็ก เยาวชน 2 เท่าตัว เร่งพัฒนาระบบดูแล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เผยขณะนี้ไทยอยู่ในสังคมของผู้สูงวัย มีผู้สูงอายุ 8.3 ล้านคน คาดในปี
2573 จำนวนผู้สูงอายุไทยจะมีมากกว่าเด็ก เยาวชน 2 เท่าตัว
ค่าใช้จ่ายรักษาโรคจะสูงขึ้น เร่งพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
โดยนำรูปแบบโครงการสวางคนิเวศของสภากาชาดไทยเป็นต้นแบบ
เพื่อขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
นายแพทย์สุรวิทย์
คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมชมรูปแบบโครงการสวางคนิเวศ
ซึ่งเป็นการดูแลผู้สูงอายุในลักษณะของที่พักอาศัยของสภากาชาดไทย
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปู อ.เมือง จังหวัดสมุทรปราการ ว่า
ขณะนี้ประเทศไทยถือว่าอยู่ในสังคมของผู้สูงอายุตามนิยามขององค์การอนามัยโลก
ปัจจุบันไทยมีผู้สูงอายุ 8.3 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 13
ของประชากรที่มีทั้งหมด 64 ล้านคน และประมาณปี 2563
จำนวนผู้สูงอายุจะมากกว่าเด็กหรือเยาวชน และจะมากเป็น 2 เท่าตัวในปี
2573 ซึ่งจะส่งผลค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลมากขึ้นตามไปด้วย
เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีโอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
มากกว่าวัยอื่นถึง 4 เท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง
และโรคที่เกิดจากการเสื่อมตามวัย
ซึ่งเป็นโรคที่ต้องดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ค่ารักษาค่อนข้างมาก
ล่าสุดนี้พบผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 4 ใน 5 คน มีโรคประจำตัวอย่างน้อย 1
โรค
นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อว่า รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี
มีนโยบายลดโรค เพิ่มสุขให้กลุ่มผู้สูงอายุรวมทั้งผู้พิการ
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขวางแผนจัดบริการผู้สูงอายุเป็น 3 กลุ่ม กลุ่ม 1
เป็นผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้ มีประมาณร้อยละ 78
กลุ่มนี้จะเน้นดูแลส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค
เพื่อให้มีชีวิตและช่วยเหลือตนเองได้ให้ได้นานที่สุด
2.กลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้บ้างบางส่วน มีร้อยละ 20
จะเน้นช่วยในเรื่องการดูแลโรคประจำตัว และกลุ่ม3
เป็นกลุ่มช่วยเหลือตนเองไม่ได้หรือเรียกว่าติดเตียง มีร้อยละ 2
กลุ่มนี้ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ จะต้องมีคนดูแลช่วยเหลือ
ทั้งเรื่องกิจวัตรส่วนตัวหรือเรื่องอื่นๆ
โดยให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งเปิดไฟเขียว
ให้บริการผู้สูงอายุเป็นช่องทางเฉพาะ และเพิ่มโครงการบริการทางด่วน 70
ปีไม่มีคิวทุกจุดบริการด้วย
ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุได้รับบริการรวดเร็วขึ้น
สำหรับโครงการสวางคนิเวศ
ซึ่งสภากาชาดไทยดำเนินการร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐเอกชน
ถือว่าเป็นรูปแบบการดูแลช่วยเหลือด้านสังคมและสุขภาพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ปานกลางและช่วยเหลือดูแลตนเองได้
แต่อาจขาดผู้ดูแล และต้องการความปลอดภัย
เพื่อให้มีชีวิตอยู่ร่วมกับคนวัยเดียวกันอย่างมีความสุข
โดยใช้รูปแบบการบริจาคเงินเพื่อเข้ามาพักอาศัยตลอดชีวิต
ต่างจากที่พักอาศัยทั่วไป การออกแบบอาคาร ห้องพัก ห้องน้ำ
จะเน้นความปลอดภัย มีบริการดูแล ส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและจิตใจ เช่น
เครื่องออกกำลังกาย สนามหญ้า บรรยากาศสิ่งแวดล้อมร่มรื่น
และบริการฟื้นฟูสภาพโดยทีมเจ้าหน้าที่เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภากาชาดไทย
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
กระทรวงสาธารณสุขจะนำรูปแบบดังกล่าวไปเป็นต้นแบบ
และหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องเช่นกระทรวงพัฒนาสังคมฯ
เพื่อนำไปขยายผลในพื้นที่อื่น
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้โรงพยาบาลสมุทรปราการ
จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้ผู้สูงอายุที่พักอาศัยในโครงสวางคนิเวศ
ซึ่งมีประมาณ 80 คนฟรี ด้วย
********************************
1 กรกฎาคม 2555
|
แหล่งข่าวโดย »
สำนักสารนิเทศ [กรกฏาคม อาทิตย์ 1,พ.ศ 2555
09:29:15] พิมพ์ข่าว
| |